วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

USA Food News_USFDA ปรับปรุงกฎระเบียบข้อมูลฉลากโภชนาการใหม่

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2559 องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (USFDA) ได้ออกประกาศการปรับปรุงฉลากอาหาร โดยมีการแก้ไขรายละเอียดให้มีความทันสมัยและใช้ข้อมูลอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงฉลากสินค้า 2 เรื่อง ดังนี้
                1. ปรับปรุงรูปแบบฉลากโภชนาการใหม่ โดยมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นและต้องทราบดังนี้
- เพิ่มขนาดตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือ เป็นตัวเข้มสำหรับรายละเอียดโภชนาการที่สำคัญ คือ แคลอรี่ หน่วยบริโภค และจำนวนการบริโภคต่อหนึ่งบรรจุภัณฑ์
- แจ้งปริมาณของวิตามินดี และโปรแตสเซียมที่จะได้รับจากอาหารเป็นปริมาณที่ควรจะได้รับในหนึ่งวัน (the % daily value - %DV)
- เพิ่มเติมคำอธิบาย %DV หรือปริมาณที่แนะนำต่อวันต่อหนึ่งหน่วยการบริโภคซึ่งจะอยู่บนฟุตโน๊ตของฉลาก
- การผสมน้ำตาลในอาหาร ฉลากต้องแสดงรายละเอียดปริมาณเป็นกรัมและปริมาณเป็น %DV
- ยกเลิกการใส่ข้อมูลปริมาณแคลลอรี่จากไขมัน (Calories from fat)
                2. แก้ไขหน่วยบริโภค (Serving Size) และข้อกำหนดบนฉลากเฉพาะสินค้าบางขนาด เช่น
- แก้ไขหน่วยบริโภค (Serving Size) ให้เป็นไปตามปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้บริโภคบริโภคตามความเป็นจริง จากเดิมที่กำหนดจากปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่ควรบริโภค โดยใช้ข้อมมูลจากการศึกษาลักษณะนิสัยการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มของคนอเมริกันเป็นมาตรฐาน
- อาหารและเครื่องดื่มที่มีบรรจภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ สามารถบริโภคได้ 1-2 คน การกำหนดรายละเอียดหน่วยการบริโภค บนฉลากโภชนาการให้กำหนดเป็นหนึ่งหน่วยการบริโภค
- กรณีอาหารและเครื่องดื่มที่มีขนาดบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณมากกว่าหนึ่งหน่วยการบริโภค แต่สามารถบริโภคหมดได้ด้วยหนึ่งคนหรือหลายๆคน กฎหมายกำหนดให้ผู้ผลิตต้องแสดงรายละเอียดทั้งสองแบบคือ ปริมาณต่อหนึ่งหน่วยการบริโภค และปริมาณต่อหนึ่งบรรจุภัณฑ์
                ทั้งนี้กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 โดยผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มียอดขายต่อปีไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะได้รับการขยายเวลาเพิ่ม 1 ปี
ทั้งนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.fda.gov./food/newsevents/cpmstotvemti[dates/ucm502201.htm
ที่มา : สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน D.C. : 
สรุปโดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น