ตามที่ EU ได้ออกมาตรการสุ่มตรวจเข้มผักไทย ๑๐% – ๕๐% ณ
ด่านนำเข้าของสหภาพยุโรป ตามกฎระเบียบ Regulation (EC) No 669/2009 ที่ออกมาตรการสุ่มตรวจเข้มพืชกลุ่มเสี่ยงของประเทศที่สามที่ส่งไปจำหน่ายยังสหภาพยุโรป
โดยให้มีผลปรับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๓ นั้น
ในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๙
คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศผลการพิจารณาแก้ไขมาตรการ สุ่มตรวจเข้มครั้งที่ ๒๓
อย่างเป็นทางการใน EU Official Journal L 78/51 ตาม Commission
Implementing Regulation (EU) 2016/443 of 23 March 2016 amending Annex I to
Regulation (EC) No 669/2009 as regards the list of feed and food of non-animal
origin subject to an increased level of official controls on imports ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย Commission Implementing Regulation ดังกล่าวยังคงเป็นมาตรการเดิม
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างจากการ Review ครั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น จึงสรุปภาพรวมการตรวจเข้มผักจากไทย ณ ปัจจุบัน ได้ดังนี้
๑. คงการตรวจหาสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๒๐% ในผัก ๒ ประเภท คือ
ผักในกลุ่มมะเขือ และถั่วฝักยาวจากไทย
๒. คงการตรวจหาสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๑๐% ในพริกจากไทย
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ จากการ Review ครั้งนี้ พบว่า EU
๑. เพิ่มการสุ่มตรวจหาสารอัลฟลาทอกซินตกค้างที่ระดับ ๕๐%
ในถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงจากมาดากัสการ์
๒. เพิ่มการสุ่มตรวจหาสีซูดานปนเปื้อนที่ระดับ
๕๐% ในน้ำมันปาล์มจากกาน่า
๓. เพิ่มการสุ่มตรวจหาสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๑๐% ในมะนาวจากตุรกี
๔. ยกเลิกการสุ่มตรวจหาสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๑๐% ในมะเขือกับมะระจากสาธารณรัฐโดมินิกัน
สำหรับรายละเอียดที่เกี่ยวข้องสามารถศึกษาได้จากเวปไซต์ดังนี้
กฎระเบียบฉบับนี้จะมีผลตามกฎหมาย ๓ วันหลังจากที่ประกาศใน EU
Official Journal (ประกาศในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๙) และกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
๑ เมษายน ๒๕๕๙ เป็นต้นไป
โดย สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น