สหภาพยุโรปลงมติยอมรับกฎหมายสุขภาพสัตว์ฉบับใหม่ โดยคณะกรรมาธิการด้านความปลอดภัยอาหารและสุขภาพ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นตัวช่วยในการต่อสู้กับโรคสัตว์และเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ
กฎหมายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 เมษายน 2559 ถือเป็นการปูทางให้ระบบต่างๆ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคจากสัตว์เพิ่มมากขั้น ทั้งโรคติดต่อในสัตว์ เช่น โรคปากเท้าเปื่อย โรค Bluetongue ที่สามารถสร้างความเสียหายแก่สังคมและเศรษฐกิจได้ และโรคอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์ เช่น โรคไข้หวัดนก หรือโรคอุบัติใหม่อื่นๆ
กฎหมายฉบับใหม่นี้เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมกรอบการดำเนินงานด้านสุขภาพสัตว์อย่างไม่ซับซ้อนและมีความชัดเจนต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่ากฎหมายฉบับเดิมด้วย ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจัดลำดับความสำคัญเมื่อต้องจัดการกับโรคสัตว์ได้ ทั้งยังระบุความรับผิดชอบระหว่างผู้เลี้ยงสัตว์ พ่อค้า สัตวแพทย์ กับหน่วยงานระดับชาติ พร้อมทั้งวางเครื่องมือการแจ้งเตือนและการตรวจสอบให้ดีกว่าเดิมเพื่อต่อสู้กับโรคสัตว์ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดโรคระบาดในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและช่วยลดผลกระทบด้านสังคมและเศรษฐกิจด้วย
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับใหม่ยังตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ พร้อมทั้งวางรากฐานในการกำหนดการตรวจสอบเชื้อก่อโรคในสัตว์ที่มีการดื้อยาปฏิชีวนะ และยังมีการเสนอข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับยารักษาสัตว์และยาที่ผสมในอาหารสัตว์ ซึ่งปัจจุบันรัฐสภายุโรปและสภาได้เริ่มเจรจากันแล้ว
กฎหมายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 เมษายน 2559 ถือเป็นการปูทางให้ระบบต่างๆ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคจากสัตว์เพิ่มมากขั้น ทั้งโรคติดต่อในสัตว์ เช่น โรคปากเท้าเปื่อย โรค Bluetongue ที่สามารถสร้างความเสียหายแก่สังคมและเศรษฐกิจได้ และโรคอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์ เช่น โรคไข้หวัดนก หรือโรคอุบัติใหม่อื่นๆ
กฎหมายฉบับใหม่นี้เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมกรอบการดำเนินงานด้านสุขภาพสัตว์อย่างไม่ซับซ้อนและมีความชัดเจนต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่ากฎหมายฉบับเดิมด้วย ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจัดลำดับความสำคัญเมื่อต้องจัดการกับโรคสัตว์ได้ ทั้งยังระบุความรับผิดชอบระหว่างผู้เลี้ยงสัตว์ พ่อค้า สัตวแพทย์ กับหน่วยงานระดับชาติ พร้อมทั้งวางเครื่องมือการแจ้งเตือนและการตรวจสอบให้ดีกว่าเดิมเพื่อต่อสู้กับโรคสัตว์ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดโรคระบาดในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและช่วยลดผลกระทบด้านสังคมและเศรษฐกิจด้วย
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับใหม่ยังตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ พร้อมทั้งวางรากฐานในการกำหนดการตรวจสอบเชื้อก่อโรคในสัตว์ที่มีการดื้อยาปฏิชีวนะ และยังมีการเสนอข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับยารักษาสัตว์และยาที่ผสมในอาหารสัตว์ ซึ่งปัจจุบันรัฐสภายุโรปและสภาได้เริ่มเจรจากันแล้ว
ที่มา: thepoultrysite สรุปโดย: สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น