ผู้ผลิตนมในแถบประเทศสหภาพยุโรป (EU) ได้นำเทคนิคการฉายแสง UV มาใช้ในผลิตภัณฑ์นมซึ่งสามารถทำให้ยืดอายุจาก 12 วันเป็น 21 วัน โดยคณะกรรมการโภชนาการและโรคภูมิแพ้ (NDA) ของหน่วยงานความปลอดภัยอาหารแห่งสหภาพยุโรป (European Food Safety Authorities :EFSA) ได้เผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นม 3 ประเภท ได้แก่
- นมพาสเจอร์ไรซ์ไขมันเต็มส่วน
- นมพาสเจอไรซ์กึ่งพร่องมันเนย
- นมพาสเจอไรซ์พร่องมันเนย
ว่ามีความปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ให้ใช้กับเด็กทารกที่ต่ำกว่า 1 ปี รวมทั้งมีการประเมินว่านมที่ผ่านการฉายแสง UV นั้นเป็นผลิตภัณฑ์นมที่เข้าข่าย Novel Food (อาหารที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่)
แม้จะมีข้อถกเถียงของประเทศสมาชิกว่าแสง UV จะส่งผลต่อการเกิดปฏิกริยาต่อสารอาหารในนม เช่น ไขมัน โปรตีน และวิตามิน A,B2,C และ E มากน้อยเพียงใดนั้น ซึ่งต่อมาก็ได้ข้อสรุปจาก EFSA เพิ่มเติมว่าแสง UV นั้นสามารถทำให้ความเข้มข้นของวิตามิน D3 นั้นเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ทางผู้ผลิตยังสามารถปรับสูตรให้มีความเหมาะสมกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้นมได้อีกด้วย
- นมพาสเจอร์ไรซ์ไขมันเต็มส่วน
- นมพาสเจอไรซ์กึ่งพร่องมันเนย
- นมพาสเจอไรซ์พร่องมันเนย
ว่ามีความปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ให้ใช้กับเด็กทารกที่ต่ำกว่า 1 ปี รวมทั้งมีการประเมินว่านมที่ผ่านการฉายแสง UV นั้นเป็นผลิตภัณฑ์นมที่เข้าข่าย Novel Food (อาหารที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่)
แม้จะมีข้อถกเถียงของประเทศสมาชิกว่าแสง UV จะส่งผลต่อการเกิดปฏิกริยาต่อสารอาหารในนม เช่น ไขมัน โปรตีน และวิตามิน A,B2,C และ E มากน้อยเพียงใดนั้น ซึ่งต่อมาก็ได้ข้อสรุปจาก EFSA เพิ่มเติมว่าแสง UV นั้นสามารถทำให้ความเข้มข้นของวิตามิน D3 นั้นเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ทางผู้ผลิตยังสามารถปรับสูตรให้มีความเหมาะสมกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้นมได้อีกด้วย
มกอช.
**ความเห็นส่วนตัวนะคะ
UV ฆ่าเชื้อได้ แต่หากให้ในปริมาณและระยะเวลาหนึ่งสารอาหารที่มีย่อมถูกทำลาย สิ่งที่จะช่วยได้ก็ฉลากโภชนาการที่จะบอกว่าคุณค่าเหลือเท่าใดและตรงตามมาตรฐานหรือไม่
ว่าไปก็เสี่ยงกับมะเร็งเพิ่มขึ้นเนาะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น