วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

Indonesia Food News_อินโดนีเซียปรับกฎระเบียบการจัดทำความยอมรับร่วม

           หลังจากอินโดนีเซียได้ออกมาตรการเพื่อควบคุมการนำเข้าพืชสวนของอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงเกษตรอินโดนีเซียปรับปรุงกฎระเบียบการจัดทำความยอมรับร่วม (Mutual Recognition Arrangement)  โดยผนวกการจัดทำการยอมรับด้านห้องปฏิบัติการ (Recognized Laboratory) เข้าไปด้วย และมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอาหาร ซึ่งกำหนดให้ประเทศใดที่ไม่ได้รับการรับรองอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถส่งออกสินค้าประเภทพืช ผัก ผลไม้สด จำนวน 103 ชนิด ไปยังอินโดนีเซียได้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559  

           กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 กระทรวงเกษตรอินโดนีเซียประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการของไทย ทั้งหมด 9 แห่ง และอนุญาตให้ดำเนินการได้เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ออกประกาศ ซึ่งห้องปฏิบัติการดังกล่าวสามารถออกใบรับรองผลการตรวจวิเคราะห์สารตกค้าง (Certificate of Analysis) จำนวน 25 รายงาน สำหรับพืช ผัก ผลไม้ที่ส่งออกจากไทยไปอินโดนีเซียได้ ซึ่งรายชื่อห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจากอินโดนีเซีย ได้แก่
           1. Central Laboratory (Thailand) Bangkok
           2. Central Laboratory (Thailand) Chachengsao
           3. Central Laboratory (Thailand) Chiang Mai
           4. SGS (Thailand)
           5. ALS Laboratory Group (Thailand)
           6. National Food Institute Thailand
           7. TUV SUD (Thailand) Co. Ltd.
           8. Thai Agri Food Public Co. Ltd.
           9. Oversea Merchandise Inspection Co. Ltd.

             ทั้งนี้สินค้าพืชสวนหลักของไทยทื่ส่งออกไปอินโดนีเซียต้องดำเนินการตรวจวิเคราะห์รายการสารตกค้างมี 8 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง แคนตาลูป หอมแดง ข้าว และพริก
สามารถศึกษารายละเอียดรายการสารตกค้างที่ต้องตรวจวิเคราะได้ที่: เอกสารเพิ่มเติม
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เบอร์โทร 02-561-2277 ต่อ 1331
 
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ [ เอกสารเพิ่มเติม ]
 
 
ที่มา : สรุปโดย (สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น