องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุญาตให้มีการผลิต จำหน่าย เพื่อการบริโภค ปลาแซลมอนแอตแลนติกดัดแปลงพันธุกรรม AquAdvantage ซึ่งมีคุณสมบัติโตเร็วกว่าปลาแซลมอนแอตแลนติกโดยทั่วไป
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมจำเป็นต้องทำตามกฎหมายความปลอดภัยและคุณภาพที่อยู่ภายใต้กฎหมายอาหาร ยา และเครื่องสำอางของสหรัฐฯ ซึ่งปลาแซลมอนแอตแลนติกของผู้ผลิตรายดังกล่าวจะต้องผ่านการรับรองเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริโภค ความปลอดภัยจาก rDNA ที่ใช้เร่งการเจริญเติบโต และการรับรองสิทธิ์ของบริษัทเกี่ยวกับการเร่งการเจริญเติบโตของปลาแซลมอน นอกจากนี้ FDA ยังกล่าวว่าผลิตภัณฑ์อาหารจากแซลมอนแอตแลนติกดัดแปลงพันธุกรรมจะมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภคและมีโภชนาการไม่ต่างจากแซลมอนแอตแลนติกในธรรมชาติ ทั้งนี้มีโอกาสน้อยที่ปลาจะหลุดออกจากสถานที่เพาะเลี้ยงไปแพร่พันธุ์ในธรรมชาติ เพราะมีมาตรการควบคุมระบบการเลี้ยงปลาที่รัดกุม อีกทั้งปลาแซลมอนดัดแปลงพันธุกรรมเหล่านี้ก็เป็นหมัน
ปัจจุบันสหรัฐฯ นำเข้าอาหารทะเลมากกว่า 90% และมีผู้บริโภคแซลมอนแอตแลนติกมากกว่า 95% จึงเป็นโอกาสดีเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนแอตแลนติกดัดแปลงพันธุกรรม
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมจำเป็นต้องทำตามกฎหมายความปลอดภัยและคุณภาพที่อยู่ภายใต้กฎหมายอาหาร ยา และเครื่องสำอางของสหรัฐฯ ซึ่งปลาแซลมอนแอตแลนติกของผู้ผลิตรายดังกล่าวจะต้องผ่านการรับรองเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริโภค ความปลอดภัยจาก rDNA ที่ใช้เร่งการเจริญเติบโต และการรับรองสิทธิ์ของบริษัทเกี่ยวกับการเร่งการเจริญเติบโตของปลาแซลมอน นอกจากนี้ FDA ยังกล่าวว่าผลิตภัณฑ์อาหารจากแซลมอนแอตแลนติกดัดแปลงพันธุกรรมจะมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภคและมีโภชนาการไม่ต่างจากแซลมอนแอตแลนติกในธรรมชาติ ทั้งนี้มีโอกาสน้อยที่ปลาจะหลุดออกจากสถานที่เพาะเลี้ยงไปแพร่พันธุ์ในธรรมชาติ เพราะมีมาตรการควบคุมระบบการเลี้ยงปลาที่รัดกุม อีกทั้งปลาแซลมอนดัดแปลงพันธุกรรมเหล่านี้ก็เป็นหมัน
ปัจจุบันสหรัฐฯ นำเข้าอาหารทะเลมากกว่า 90% และมีผู้บริโภคแซลมอนแอตแลนติกมากกว่า 95% จึงเป็นโอกาสดีเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนแอตแลนติกดัดแปลงพันธุกรรม
ที่มา: thefishsite (25/11/58)
ที่มา มกอช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น