ญี่ปุ่นเตรียมใช้ระเบียบแสดงแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบในอาหาร
ญี่ปุ่นเตรียมบังคับใช้ระเบียบระบุแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบที่ใช้ในอาหารฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลต่ออาหารแปรรูปที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นทุกชนิด โดยกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา และคาดว่าจะเริ่มต้นบังคับใช้ในช่วงฤดูร้อนนี้ (มิถุนายน-สิงหาคม 2560) ทั้งนี้ จะมีช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านจนถึงเดือนมีนาคม 2022
รายละเอียดโดยสรุปของระเบียบฉบับใหม่มีดังนี้
1. ให้ระบุแหล่งกำเนิด/แหล่งที่มาของวัตถุดิบที่มีน้ำหนักมากที่สุด โดยหากวัตถุดิบชนิดนั้นๆมีการใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มาหลายประเทศ จะต้องระบุชื่อประเทศแหล่งที่มาเรียงตามลำดับน้ำหนัก โดยใช้เครื่องหมาย , คั่น เช่น Ingredients : Pork (USA, Canada)
2. หากวัตถุดิบมีแหล่งที่มาจากหลายประเทศ (ตามข้อมูล/สถิติการใช้วัตถุดิบของผู้ประกอบการ) ให้ระบุ เรียงตามลำดับประเทศที่ใช้บ่อยกว่า โดยใช้คำว่า Or คั่น เช่น Ingredients : Pork (USA or Canada) Order based on data from Year XX of the Heisei era
3. หากวัตถุที่ใช้มีการนำเข้าจาก 3 ประเทศขึ้นไป สามารถระบุโดยใช้คำว่า imported ได้
4. คำว่า Or และ imported สามารถใช้พร้อมกันได้ เช่น Ingredient : Pork (imported or domestic) Order based on data from Year XX of the Heisei era
อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมผู้บริโภคญี่ปุ่น (JCCU) ระบุว่าระเบียบฉบับใหม่มีข้อยกเว้น และมีความซับซ้อนในการแสดงข้อมูลมากกว่าระเบียบปัจจุบัน รวมทั้งอาจทำให้เกิดความสับสนแก่ผู้บริโภคได้
รายละเอียดโดยสรุปของระเบียบฉบับใหม่มีดังนี้
1. ให้ระบุแหล่งกำเนิด/แหล่งที่มาของวัตถุดิบที่มีน้ำหนักมากที่สุด โดยหากวัตถุดิบชนิดนั้นๆมีการใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มาหลายประเทศ จะต้องระบุชื่อประเทศแหล่งที่มาเรียงตามลำดับน้ำหนัก โดยใช้เครื่องหมาย , คั่น เช่น Ingredients : Pork (USA, Canada)
2. หากวัตถุดิบมีแหล่งที่มาจากหลายประเทศ (ตามข้อมูล/สถิติการใช้วัตถุดิบของผู้ประกอบการ) ให้ระบุ เรียงตามลำดับประเทศที่ใช้บ่อยกว่า โดยใช้คำว่า Or คั่น เช่น Ingredients : Pork (USA or Canada) Order based on data from Year XX of the Heisei era
3. หากวัตถุที่ใช้มีการนำเข้าจาก 3 ประเทศขึ้นไป สามารถระบุโดยใช้คำว่า imported ได้
4. คำว่า Or และ imported สามารถใช้พร้อมกันได้ เช่น Ingredient : Pork (imported or domestic) Order based on data from Year XX of the Heisei era
อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมผู้บริโภคญี่ปุ่น (JCCU) ระบุว่าระเบียบฉบับใหม่มีข้อยกเว้น และมีความซับซ้อนในการแสดงข้อมูลมากกว่าระเบียบปัจจุบัน รวมทั้งอาจทำให้เกิดความสับสนแก่ผู้บริโภคได้
(ต่อ)ตามที่โครงการเตือนภัยสินค้าเกษตรและอาหารได้เผยแพร่ข่าว ญี่ปุ่นเตรียมใช้ระเบียบแสดงแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบในอาหาร (http://www.acfs.go.th/read_news.php?id=15070&ntype=07) ระเบียบระบุแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบที่ใช้ในอาหารของญี่ปุ่นที่เตรียมจะบังคับใช้ในช่วงฤดูร้อนปี 2560 นี้ ที่ได้กำหนดให้ระบุแหล่งกำเนิด/ที่มาของวัตถุดิบในอาหารที่มีน้ำหนักมากที่สุด จะมีผลบังคับใช้กับอาหารแปรรูปที่ผลิตและวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทุกประเภท รวมไปถึง ก๋วยเตี๋ยว ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง และอาหารกระป๋อง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบการแสดงฉลากของอาหารแปรรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ยังคงต้องระบุแหล่งที่มาของอาหารนั้นๆ แต่ไม่จำเป็นต้องระบุแหล่งที่มารายวัตถุดิบ
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำหนดให้ระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบอาหารที่มีน้ำหนักในผลิตภัณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้นไป ทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีการแสดงฉลากระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบ
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำหนดให้ระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบอาหารที่มีน้ำหนักในผลิตภัณฑ์ร้อยละ 50 ขึ้นไป ทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีการแสดงฉลากระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบ
ที่มา: thejapannews สรุปโดย: มกอช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น