สภาเกษตรไต้หวัน (COA) เร่งตรวจสอบแหล่งที่มาของสาร Dioxin หลังพบการปนเปื้อนของสารดังกล่าวเป็นวงกว้าง และใช้มาตรการเฝ้าระวังพร้อมทั้ง เรียกคืนไข่ทั้งประเทศกว่า 8 ตัน ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐได้หาสาเหตุของการปนเปื้อน มุ่งประเด็นไปที่อาหารสัตว์ และได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาหารสัตว์ปีกอย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ COA และศูนย์ควบคุมโรคสัตว์ของไต้หวันได้เข้าตวจสอบฟาร์มสัตว์ปีก ที่ Hung Chang พร้อมสั่งกำจัดสัตว์ปีกกว่า 42,000 ตัว วางแผนทำลายไข่ไก่กว่า 15 ตัน และใช้มาตรการเฝ้าระวังเรียกคืนไข่กว่า 8,962 กิโลกรัม ซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หน่วยงานองค์การอาหารและยาไต้หวัน (FDA) ได้เข้าตรวจสอบไข่ที่วางจำหน่ายกว่า 3,730 กิโลกรัม และล่าสุดได้ทำการตรวจสอบไข่จากฟาร์มสัตว์ปีกเดิม ที่ Hung Chang พบว่า ยังคงมีการปนเปื้อนของสาร Dioxin แต่มีปริมาณสารลดลงอยู่ที่ 2.88 pg/g และ 3.34 pg/g ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่ 2.5 pg/g
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนสาร Dioxin เป็นกลุ่มสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง ซึ่งส่วนใหญ่มักสะสมอยู่ในเนื้อสัตว์ หากผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ COA และศูนย์ควบคุมโรคสัตว์ของไต้หวันได้เข้าตวจสอบฟาร์มสัตว์ปีก ที่ Hung Chang พร้อมสั่งกำจัดสัตว์ปีกกว่า 42,000 ตัว วางแผนทำลายไข่ไก่กว่า 15 ตัน และใช้มาตรการเฝ้าระวังเรียกคืนไข่กว่า 8,962 กิโลกรัม ซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หน่วยงานองค์การอาหารและยาไต้หวัน (FDA) ได้เข้าตรวจสอบไข่ที่วางจำหน่ายกว่า 3,730 กิโลกรัม และล่าสุดได้ทำการตรวจสอบไข่จากฟาร์มสัตว์ปีกเดิม ที่ Hung Chang พบว่า ยังคงมีการปนเปื้อนของสาร Dioxin แต่มีปริมาณสารลดลงอยู่ที่ 2.88 pg/g และ 3.34 pg/g ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่ 2.5 pg/g
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนสาร Dioxin เป็นกลุ่มสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง ซึ่งส่วนใหญ่มักสะสมอยู่ในเนื้อสัตว์ หากผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ : http://www.acfs.go.th/read_news.php?id=14677&ntype=07
และ http://www.acfs.go.th/read_news.php?id=14701&ntype=07
และ http://www.acfs.go.th/read_news.php?id=14701&ntype=07
ที่มา : thepoultrysite.com สรุปโดย มกอช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น